Review Ikea Knappa

IKEA KNÄPPA – Flat-pack Cardboard Digital Camera – อิเกีย คแน๊ปป้า กล้องกระดาษดิจิตอล สุดชิค

สวัสดีล่วงหน้า ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ไทยครับ ขอให้ทุกท่านชุ่มฉ่ำๆทั้งร่างกายและจิตใจ ครับ

ในวันนี้ สิ่งของที่ผมนำมารีวิว เป็นของที่เรียกได้ว่า สุดพิเศษ และหาซื้อไม่ได้ หรือหาได้แต่คงยากมากๆ เพราะเค้าไม่ได้ผลิตมาเพื่อจำหน่าย นั่นคือ “IKEA KNÄPPA” (อิเกีย คแน๊ปป้า) กล้อง ดิจิตอล จาก อิเกีย ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ จาก สวีเดน อันโด่งดังระดับต้นๆของโลก เฟอร์นิเจอร์และของเครื่องใช้อิเกีย เรามันจะเห็นอยู่ผ่านๆตาตามหนังสือ ภาพยนต์ เกมส์ และสื่ออื่นๆมากมาย เพียงแต่คนไทยแทบไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่นัก และอิเกียเพิ่งเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยไม่นานประมาณ หนึ่งปีมานี้เองครับ

หลายคนคงสงสัยว่าว่า ในเมื่อหาซื้อไม่ได้เพราะไม่มีจำหน่าย แล้วจะทำรีวิวไปทำไม ขอตอบว่าเพราะเก็บบันทึกเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์ครับ ^.^

อิเกีย บางท่านอ่านว่า ไอเกีย หรือ อีเกีย เป็นแบรนด์ เฟอร์นิเจอร์ที่ มีสินค้า รูปแบบร้าน การจัดการ การเดินเนินการ การตลาด เป็นต้นแบบแรงบันดาลใจให้ผู้ผลิตจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ๆของไทยมานานมาก จนเรานึกว่าเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นเค้าคิดเองออกแบบเอง แต่แล้วปัจจุบันเมื่อมีสาขาอิเกียในประเทศไทยแล้ว ผู้บริโภคจึงได้สัมผัสประสพการณ์จริงๆ จากสินค้าต้นฉบับที่ อิเกีย บางนา, สินค้าของอิเกียผู้เขียนพบว่า หลากหลายชิ้นราคาถูกคุ้มราคามาก เพราะด้วยการผลิตแบบ Mass production จำนวนเป็นล้านๆชิ้นและจำหน่ายไปทั่วโลก ทำให้เกิด Economies of scale และทำราคาต่ำสุดๆในขณะที่ยังคงคุณภาพเอาไว้ได้. สำหรับผมแวะไปทีไร ต้องหมดเป็นพันทุกทีเลย โดยเฉพาะที่ขาดไม่ได้เลยคือ ร้านอาหาร อิเกีย ที่อร่อยมากๆ

เอาละครับมาเข้าเรื่องกล้องตัวนี้กัน, กล้องอิเกีย ตัวนี้เป็นของแจก ที่อิเกียผลิตมาเพื่อโปรโมตแบรนด์ตัวเอง และไม่ได้ทำมาเพื่อจำหน่าย ดังนั้น คุณจึงหาซื้อไม่ได้, จากที่ค้นข้อมูลพบว่า มีการเปิดตัวกล้องตัวนี้เมื่อ ราวๆต้นปี 2012 และแจกให้ลูกค้าในวันที่มีการเปิดตัวสาขาของอิเกีย ในประเทศต่างๆ ซึ่งแจกในจำนวนไม่มากนัก, อีกทั้งมีคุณสมบัติ 1.2MP, ใช้ AAA battery, View finder, Image Stabilizer, Optical Zoom ซะด้วย

KNÄPPA เป็นภาษาสวีดิช จากการค้นข้อมูล ชาวสวีเดนแท้ๆ ออกเสียงว่า “เคอะ-แน้บ-ป่ะ” ซึ่งแปลเป็นอังกฤษได้หลายคำ แต่คำที่น่าจะใกล้เคียงที่สุดมีสามคำคือ “Button หรือ Snap หรือ Flick” ซึ่งแปลไทยคือ “ปุ่ม หรือ จับ(ตะครุบ) หรือ ภาพ” เอาง่ายๆคือประมาณแปลว่า ปุ่มจับภาพ นั่นเองครับ. จริงๆแล้วยังมีซีรี่ย์เฟอร์นิเจอร์ของอิเกีย ชื่อ KNÄPPA เหมือนกันอีกด้วยนะครับ.

สำหรับของผมตัวนี้ ได้มาจากการประกวดภาพถ่าย อิเกีย เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มา (ชมภาพที่ผมชนะการประกวดได้ที่ ด้านล่างครับ)

เรามาชมการแกะกล่อง Ikea Knappa ตัวนี้ไปพร้อมกันครับ


ด้านหน้ากล่องครับ ทำจากกระดาษรีไซเคิลที่ใช้เป็นลังต่างๆทั่วไป มีใบแปะหน้ามาให้จากฝ่ายประชาสัมพันธ์อิเกีย


ด้านหลังมีคำอธิบายเล็กๆมากมายหลายภาษา และมีแบตเตอรี่มาให้สองก้อน

เป็นเพียงแค่การแจ้งว่า มีคู่มือการใช้งานเตรียมไว้อยู่ในกล้อง

ตัวกล้องทำจาก กระดาษอัดแข็ง (card board) ด้านหน้ามีเพียง 1 ปุ่ม 1 เลนส์ ช่องใส่ถ่าน และปุ่ม รีเซต

ด้านซ้ายมีหัว USB เพื่อเสียบเข้า คอมพิวเตอร์ หัวยูเอสบีอันนี้พับไม่ได้ครับ


ด้านหลังมี รูสำหรับไฟแสดงการทำงาน และเจาะช่องเป็น วิวไฟน์เดอร์ (View Finder/ช่องมองวิว) เหมือนกล้อง SLR ทั่วไป เพียงแต่ เป็นช่องเปล่าๆไม่มีกระจก


ถ่ายให้ชมทุกมุมมองครับ

วัดขนาด ก็ กว้างประมาณ 12 cm รวมหัว USB สูง 7 cm

น๊อตพลาสติกใช้นิ้วหมุนเบาๆก็ออกแล้ว

เป็นการดาษอัดรีดพับ กางออกได้หมดเลย
ด้านในก็เป็นแผ่น PCB (แผ่นวงจร) ที่น่าจะมีอุปกรณ์ วงจรอิเลคโทรนิค ซ่อนอยู่ใต้แผ่นปิดพลาสติกสีดำ

อะไรอยู่ในวงจรก็ไม่รู้ครับ อธิบายไม่ถูก แต่สนใจอย่างเดียวคือ ที่ใส่แบตเตอรี่

กางมาให้ชมอีกด้านหนึ่ง

ทีมงานเค้าให้แบตเตอรี่ AAA Alkaline มาให้ด้วยครับ ยี่ห้อ อิเกีย ถ้าจำไม่ผิดผมเห็นในช๊อบอิเกียขายแพคละ 59 บาท สำหรับ 10 ก้อน

ใครสนใจไปหาซื้อได้ครับ

ใส่แบตเข้าไปใส่น๊อตกลับเข้าที่ แหม ดูสวยงามขึ้นเยอะ


ด้านหลัง เพิ่งสังเกตุว่า เอ๊ะคู่มืออยู่ใหน ในภาพก็บอกว่าอยู่ในกล้อง ก็ไม่เห็นมี ใช้อย่างไรไม่เห็นมีปุ่มเปิดปิด มีปุ่ม shutter อันเดียวไม่เห็นมีอะไร กดแล้วกดอีกไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากทดลองค้นหาวิธีอยู่สักพัก กล้องไม่ติด คิดว่าเจ้ง แล้วลองเสียบ USB ดูเผื่อมีอะไรบ้าง
หลังจากเสียบ USB มันก็เหมือนเป็น Flash Drive อยู่อันนึงขึ้นมาในเครื่องคอมครับ ในนั้น มี คู่มืออยู่ เป็น pdf ครับ
จับภาพคู่มือมาให้ชม มีหน้าเดียวครับ ผมเป็นคนชอบอ่านคู่มือครับ ไม่ชอบทำเร็วๆแบบไม่อ่านคู่มือถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

กดปุ่ม shutter ลึกๆ (เครื่องผมมันต้องกดลึกๆจริงๆ) 2-4 วินาที ไฟ LED ก็ติดขึ้น ข้างๆช่องเล็งภาพ view finder
แสดงให้เห็นว่าพร้อมใช้งานได้แล้ว

สวัสดีคร้าบผมเป็นผู้ช่วย พร้อมจะทดลองให้ชมแล้วคร้าบ

ภาพตัวอย่างที่มาจากในกล้อง ขนาดคือ 1280 x 960 pixels หรือ 1.2 ล้านพิกเซล

ก็จะเห็นนะครับว่า ภาพออกแนว กล้อง Lomo (โลโม่) ที่วัยรุ่นชอบกันในปัจจุบัน ที่เค้าว่ากันว่ามัน ติสม์ ดี

ตามคู่มือบอกไว้ว่า ก่อนถ่าย ให้เล็งภาพนิ่งๆอย่างน้อย 3 วินาทีก่อนกดถ่าย (คงจะใช้เวลาในการประมวลภาพ และ จับโฟกัส) เพื่อให้ภาพไม่เบลอ
เมื่อกด ชัตเตอร์ แล้วไฟ LED จะกระพริบเร็วๆ แสดงว่ากำลังจัดเก็บภาพอยู่ ใช้เวลาประมาณ 3-4 วินาทีจึงหยุดกระพริบแสดงว่าพร้อมสำหรับ shot ถัดไป

ภาพนี้ถ่ายตอนแดดออกจ้ามากๆ ช่วง บ่าย สองโมง แต่ภาพสีออกมาแนว วินเทจ หรือ ซีเปียร์ เลย


ภาพนี้เวลาเดียวกันครับ แบบพยายามถ่ายให้มือนิ่งสุดๆแล้ว

ถ่ายในร่ม ระยะประมาณ 1 ฟุต จะเห็นภาพแตกฟุ้ง มีจุดเบลอๆบางจุด เช่นตรงกระจกมองข้างประตู


ระยะสองฟุต ภาพดูดีกว่า

ระยะ 1 ฟุตอีกครั้ง รายละเอียดไม่ต้องพูดถึงครับ อ่านไม่ออกเลย -_-‘ แต่เดี๋ยวก่อนครับ

ผมไปค้นในเน็ตด้วยครับ คุณ “Jesper Kouthoofd” ดีไซน์เนอร์ ผู้ออกแบบ กล้องตัวนี้ พี่เค้าบอกว่า กล้องตัวนี้ มีระบบ Optical Zoom (ซูมด้วยเลนส์ซะด้วย ไม่ใช่ดิจิตอลซูมที่เอาผลภาพมาขยายแล้วภาพแตก) และ Image Stabilizer (ระบบกันภาพสั่นไหวจากการถ่าย) มาด้วย !!!
เรามาชม Tips & Technique การใช้ คุณสมบัติพิเศษ กล้องตัวนี้กันครับ

Image
เวลาถ่ายภาพปกติไม่ว่ากล้องชนิดไหนถ้าไม่มีขาตั้ง ให้เราถือกล้องแบบนี้ ข้อศอกแนบลำตัว ตอนถ่ายกลั้นหายใจ

เมื่อเวลาตั้งการซูม เราก็ทำแบบนี้ครับง่ายมากๆ อาจจะยังนึกภาพไม่ออก เรามาชมวิธีชัดๆกันอีกรอบครับ


ถ่ายปกติ

Optical Zoom 3x ซูม สามเท่า จะเห็นชัดๆว่าเป็น Optical Zoom ไม่ใช่ Digital Zoom แน่นอน


ระบบป้องกันการสั่นไหวครับ Image Stabilizer ครับ


สรุป

เหมาะสมกับเป็น ของกำนัล ของสะสม ที่ช่วยโฆษณาแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ผู้ได้รับประทับใจ แม้ว่า คุณภาพของภาพที่ถ่ายไม่ต้องพูดถึงเพราะคงเอามาเป็นกล้องตัวหลักในการถ่ายเก็บลายละเอียดไม่ได้แน่ๆ เทียบกับกล้องมือถือในปัจจุบัน (แต่จริงๆแล้ว คงพอๆกับกล้องมือถือที่มีคุณภาพระดับ 1-2 ล้านพิคเซลได้) การใช้งานง่าย ได้อารมณ์สนุกสนาน ภาพที่ออกมาแนว วินเทจ หรือ โลโม ที่เราคาดเดาไม่ได้ว่าภาพจะออกมาดีไหม ตรงไหม สั่นใหม โดยจะต้องมาลุ้นเอาเมื่อตอน sync กับ computer. เอาไปตั้งโชว์ที่หิ้งชั้นหนังสือนั้นเท่ห์มากๆครับ..

จากที่คิดไว้ว่าจะเก็บอย่างดีสะสมให้ลูกหลานเปาไว้โชว์ในอนาคต การจัดเก็บคงต้องระวังความชื้นเป็นพิเศษเพราะวัสดุหลักเป็นกระดาษอัด ดังนั้น ผมคงต้องใช้ถุงซิปและ ใช้ silica gel มาใส่เพื่อกันชื้นเอาไว้ด้วย ไม่เช่นนั้น ตัวเครื่องคงแอ่น ย้วย แบะหรือบานแน่นอน ถ้าเก็บรักษาไม่ดีมีความชื้น

ผมสรุปในมุมมองว่า มันไม่ใช่กล้องเพื่อคุณภาพของภาพ แต่มันคือของสะสมที่ระลึกและมีคุณค่าทางจิตใจที่ไม่มีจำหน่ายทั่วไป ละกันครับ ผมเลยขอให้ 9 คะแนน ครับ ตัดไปหนึ่งคะแนนค่าคุณภาพของภาพที่ได้

ใครมีคำแนะนำติชม หรืออยากจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม มาพูดคุยกันได้ครับ

อ้อ เกือบลืมไปว่า ภาพที่ผมชนะการประกวดภาพถ่ายที่ได้กล้องตัวนี้มาคือภาพข้างล่างครับ

ขอบคุณ อิเกียประเทศไทย ที่เอื้อเฟื้อ กล้อง IKEA Knappa ตัวนี้มาให้ผมทดสอบ, เพลิดเพลิน และ สะสม ครับ

รีวิวอื่นๆที่คุณอาจสนใจ

อีโวโพลิส
Author: อีโวโพลิส

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *